วันพุธที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ครั้งที่12 วันที่19/8/2556

  •                   อาจารย์ให้นำเสนอการทดลองเป็นกลุ่ม

1. ลูกโป่งไฟฟ้าสถิตย์
2. แรงตึงผิว
3. จดหมาย
4. ไข่จม ไข่ลอย
5. เป่าฟองสบู่
6. ขวดเป่าลูกโป่ง
7. ลาวาในขวด
8. หลอดดูดไม่ขึ้น
9. เป่าลูกโป่งในขวด
10. ไฟดับ
11. ทีเด็ดน้ำยาล้างจาน
12. เทียนลอยน้ำ
13. โป่งแสง ทึบแสง
14. กาวอากาศ
15. จดหมายล่องหน
16. แผ่นฟิมล์สีรุ้งจากน้ำยาล้างเล็บ





การทดลองกลุ่มดิฉัน เป่าลูกโป่งด้วยน้ำส้มสายชู

อุปกรณ์
1.               ลูกโป่ง 1 ใบ
2.               กรวย 1อัน
3.               ผงฟู 1ช้อนโต๊ะ
4.               ขวดพลาสติกใสขนาด 1 ลิตร
5.               น้ำส้มสายชู
การทดลอง
1.  นำลูกโป่งครอบเข้ากับกรวย ดังภาพที่ แล้วบรรจุผงฟูจำนวน 1 ช้อนโต๊ะ ลงในลูกโป่ง
2.  บรรจุน้ำส้มสายชูลงในขวดพลาสติกใส ประมาณ 1 ใน 4 ของขวด   โดยใช้กรวย เพื่อไม่ให้น้ำส้มสายชูหก
3.  นำลูกโป่งที่บรรจุผงฟูครอบลงไปบนปากขวดพลาสติก ดึงให้แน่น ( ระวังอย่าเพิ่งให้ผงฟูร่วงลงในขวด)
4.  เมื่อแน่ใจว่า ลูกโป่งยึดติดกับปากขวดแน่นแล้ว ให้ยกลูกโป่งขึ้น เพื่อให้ผงฟูหล่นลงในน้ำส้มสายชู สังเกตผลการทดลอง
                เป็นอย่างไรบ้าง เกิดอะไรขึ้นกับลูกโป่ง  เมื่อเรายกลูกโป่งขึ้นเพื่อให้ผงฟูที่อยู่ด้านในร่วงลงไปรวมกับน้ำส้มสายชู   จะสังเกตเห็นว่ามีฟองอากาศปุดๆ เกิดขึ้นมากมายภายในขวดพลาสติก  แล้วเจ้าลูกโป่งที่นอนคอพับอยู่ก็ค่อย ๆ พองขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ  หากเราใช้น้ำส้มสายชูและผงฟูมากเกินไป  ลูกโป่งก็อาจจะแตกได้ หลายคนคงสงสัยว่าอะไรที่เป็นสาเหตุให้ลูกโป่งขยายใหญ่ขึ้น และสิ่งนั้นก็คือก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นก๊าซชนิดเดียวกับที่เราหายใจออกมานั่นเอง
           เมื่อน้ำส้มสายชูรวมกับผงฟู หรือหลาย ๆ คนอาจจะเรียกว่า เบกกิ้งโซดา (Baking Soda) จะเกิดการทำปฏิกิริยาทางเคมี  และมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น   จนได้สารชนิดใหม่  ที่เรียกว่า ก๊าซคาร์บอนได้ออกไซด์  สำหรับผงฟูนั้นหลายคนคงจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี โดยเฉพาะคนที่ทำขนม  ซึ่งประโยชน์ของผงฟูนั้นนอกจากจะช่วยทำให้อาหารขึ้นฟู โดยเฉพาะขนมเค้ก หรือคุกกี้ แล้ว ยังสามารถนำผงฟูไปผสมกับน้ำ  สำหรับแช่ผักผลไม้    ซึ่งจะสามารถลดสารพิษตกค้างได้ถึง 90-95  เปอเซ็นต์ 



งานที่ได้รับมอบหมาย  อาจารย์ให้ทำสื่อเข้ามุม จับกลุ่มละ3คน




                                                                                                               















                                                      


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น